รู้หรือยัง? Marketing และ Branding ต่างกันอย่างไร?
รู้หรือยัง? Marketing และ Branding ต่างกันอย่างไร?
ผู้ประกอบการมือใหม่มักไม่แน่ใจในความแตกต่างระหว่าง การตลาด และ Branding และไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากอะไรก่อน วันนี้ BAD มีบทความน่าสนใจเกี่ยวกับ การตลาด และ Branding มาให้อ่านกัน
ก่อนอื่นต้องเข้าใจความหมายของทั้งคู่เสียก่อน ซึ่งเราได้ทำตารางเปรียบเทียบไว้ดังนี้
Marketing | Branding |
ฟังสิ่งที่ลูกค้าต้องการและนำมาปฏิบัติ | บอกให้ลูกค้าฟังถึงสิ่งที่เราเป็น |
การทำให้ลูกค้าได้รับรู้ | การทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ |
ขายสินค้า | ขายเรื่องราว |
เป้าหมาย : สร้ายยอดขาย | เป้าหมาย : สร้างความสัมพันธ์ |
จากตารางด้านบนจะเห็นว่า Marketing หรือ การตลาด มีลักษณะของการวิ่งเข้าหา หรือ การ “ผลัก” ข้อมูลของสินค้าให้ลูกค้าได้รับรู้ ต่างจาก Branding ที่จะแสดงออกถึงตัวตนและ “ดึง” ให้ลูกค้าเข้ามารู้จักสินค้ามากขึ้น เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราจะให้ทั้งคู่ทดลองขายด้วยตัวเอง สิ่งที่ Marketing จะบอกลูกค้าก็คือ “ซื้อฉันสิ ฉันช่วยเธอแก้ปัญหาของเธอได้นะ” แต่ Branding จะบอกว่า “ฉันเป็นแบบนี้นะ ฉันชอบสิ่งนั้น ไม่ชอบสิ่งนี้ เธอชอบฉันไหม” นั่นเป็นเพราะเป้าหมายของทั้งคู่แตกต่างกัน การตลาดต้องการสร้างยอดขาย เรียกคนให้เข้ามารู้จัก มาซื้อสินค้า แต่ Branding ต้องการสร้างความสัมพันธ์ ให้ลูกค้าชื่นชอบ และกลับมาซื้ออีก
เมื่อเป้าหมายต่างกัน จึงมีความท้าทายที่ต่างกันด้วย ความท้ามายของการตลาดคือการเริ่มจากศูนย์ ต้องดึงดูดลูกค้าที่อาจจะไม่รู้จัก หรือ ไม่เคยอยากซื้อสินค้าของเรามาก่อนเลย ให้เข้ามาสนใจ ต้องเริ่มจากการไม่รู้ความต้องการของลูกค้าเลย ต้องออกไปสำรวจตลาด เพื่อฟังว่าลูกค้าต้องการอะไร และปรับแผนการตลาดเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า ในขณะที่ความท้าทายของ Branding คือ การเป็นงานที่ไม่ได้จบ ณ จุดใดจุดหนึ่ง เพราะ Branding คือการสื่อสารกับลูกค้า ทุกครั้งที่เห็น ได้ยิน หรือสัมผัสกับแบรนด์
ทั้งคู่ต้องทำงานร่วมกัน ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถเลือกทำเพียงสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ แต่หากเกิดคำถามว่าจะเริ่มทำสิ่งใดก่อน เราขอแนะนำว่าต้องเป็น Branding เพราะการตลาดมีหน้าที่ชักจูงให้คนเข้ามารู้จักสินค้า และตัวตนของคุณ หากคุณยังไม่มี “ตัวตน” ลูกค้าก็จะรู้จักและซื้อเพียงสินค้าเท่านั้น แต่ Branding เป็นสร้างตัวตนให้กับธุรกิจของคุณ เมื่อคุณกลายเป็นแบรนด์แล้ว การตลาดจะชวนลูกค้าให้เข้ามารู้จักได้มากกว่าสินค้า แต่เป็นการรู้จักตัวตนของแบรนด์ ซึ่งนั่นจะเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขากลับมาซื้ออีกครั้ง