Brand positioning คือ ตำแหน่งของธุรกิจของคุณในตลาด ตำแหน่งของธุรกิจคุณต่อคู่แข่ง ตำแหน่งของธุรกิจคุณต่อลูกค้า

ในการทำธุรกิจ แน่นอนว่าคุณต้องรู้จัก “สนาม” ที่คุณแข่งอยู่ หรือการรู้จักตลาดของคุณนั่นเอง แต่คุณต้องรู้จักมากกกว่าแค่สนามแข่งของคุณ ก่อนที่จะแข่งกับธุรกิจอื่นๆนั้น คุณต้องรู้ก่อนว่าคู่แข่งของคุณเป็นใคร ตัวคุณยืนอยู่ตรงไหน แล้วคู่แข่งอยู่จรงไหน เพื่อที่คุณจะได้รู้ว่าคุณต้องเพิ่ม หรือลดอะไรเพื่อเข้าถึงใจผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด

ตัวอย่างเช่น คุณต้องการเปิดร้านกาแฟสักร้านใกล้ๆบ้าน คุณเริ่มสำรวจตลาดในพื้นที่ของคุณ และพบว่ามีร้านกาแฟสไตล์คาเฟ่มากมายแต่ยังไม่มีร้านกาแฟดริปที่บาริสต้ารู้จักกาแฟจริงๆเลยสักร้าน คุณเลยตัดสินใจเปิดร้านกาแฟดริปแล้วจ้างบาริสต้าที่ชนะรางวัลต่างๆมาแนะนำกาแฟให้กับลูกค้าของคุณ

ณ ตอนนี้คุณสามารถบอกได้แล้วว่าตัวเองอยู่ตรงไหนของตลาด คุณอาจจะอยู่ต่ำกว่าร้านคาเฟ่สวยๆที่มีขนมน่ารักๆในแง่การตกแต่ง แต่คุณอยู่สูงกว่าในด้านรสชาติกาแฟ ราคาของคุณอาจสูงกว่าทำให้ลูกค้าวัยรุ่นอาจน้อยกว่า แต่เป็นที่ชื่นชอบของคนทำงานและคอกาแฟ

การรู้ว่าตัวคุณอยู่ตรงไหนในตลาด จะทำให้คุณเริ่มเห็นว่าลูกค้าของคุณเป็นใคร “อะไร” ที่คุณควรทำให้โดดเด่น และ “อะไร” ที่คุณไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องแข่งกับทุกๆแบรนด์ในทุกๆด้าน เพียงแค่คุณรู้จัก Brand positioning ของธุรกิจของคุณ รู้ว่าจุดแข็งของคุณคืออะไรแล้วใช้มันเป็น “จุดยืน” ที่ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเปลี่ยนไปอย่างไรจุดยืนของคุณจะยังมั่งคงไม่เปลี่ยน

Brand positioning นอกจากทำให้คุณรู้ตำแหน่งของคุณในตลาดแล้ว ยังทำให้ลูกค้ารู้ถึงตัวตนของแบรนด์คุณอีกด้วย พวกเขาจะรู้ว่าหากต้องการหาร้านกาแฟสไตล์ค่าเฟ่ชิคๆ มันไม่ใช่ “ตัวตน” ของคุณ แต่ลูกค้าที่รักในกาแฟ หรือต้องการที่นั่งทำงานแบบเรียบง่าย พวกเขาจะนึกถึงคุณทันที ดังนั้นอย่าพยายามให้แบรนด์ของคุณ เป็นอะไรที่ไม่ใช่ตัวเอง อย่าปล่อยให้แบรนด์ทิ้ง “ตัวตน” ของตัวเอง คุณต้องให้ความสำคัญกับตัวตนของแบรนด์เป็นอันดับแรก เพราะใครๆก็สามารถสร้างธุรกิจของตัวเองได้ แต่ผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศเท่านั้นที่จะสร้าง Brand และทำให้มันโดดเด่นได้