5 สิ่งที่ผู้ประกอบการมือใหม่มักพลาดไป ไม่อยากพลาดต้องอ่าน!
5 สิ่งที่ผู้ประกอบการมือใหม่มักพลาดไป ไม่อยากพลาดต้องอ่าน!
บทความนี้กล่าวถึง เรื่องที่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่มักก้าวพลาด 5 ข้อ โดย Robyn D. Shulman ผู้ได้รับรางวัล LinkedIn Top Voices 2018 อันดับที่ 1
ในด้านการศึกษา ซึ่งปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งบรรณาธิการการศึกษาของ 51Talk ประเทศจีนอีกด้วย Robyn กล่าวถึงข้อควรระวังต่างๆไว้ดังนี้
1. ไม่เข้าใจธุรกิจของตัวเอง ผู้ประกอบการรุ่นใหม่จำนวนมากมักตอบตัวเองอย่างชัดเจนไม่ได้ ว่าตัวเองกำลังขายอะไรอยู่ ไม่แน่ใจว่าแผนธุรกิจที่มีนั้นดีพอหรือยัง ทำให้ต้องเปลี่ยนไปมาตลอดเวลา หากคุณประสบปัญหาเช่นนี้ อย่าเพิ่งเริ่มลงมือ สร้างความชัดเจนให้กับแผนธุรกิจของคุณก่อน เพราะถึงคุณจะมีความคิดดีๆมากมาย แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าธุรกิจของตัวเองอยู่ตรงไหนในตลาด มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะประสบความสำเร็จ อย่าลืมว่าสิ่งที่สำคัญคือ คุณต้องเข้าใจตลาดที่คุณอยู่ และ ความต้องการของกลุ่มลูกค้าของคุณให้มากที่สุดเสียก่อน
2. ไม่รู้จักกลุ่มลูกค้า เมื่อคุณรู้ว่ากลุ่มลูกค้าของคุณคือใคร คุณต้องทำความเข้าใจพวกเขาให้มากที่สุด หากคุณยังไม่มีข้อมูล เริ่มศึกษาเลย! อย่าอายที่จะออกไปพูดคุย หรือทำแบบสอบถาม เพื่อสำรวจความคิดเห็น และความต้องการ ของกลุ่มคนที่จะกลายมาเป็นลูกค้าคุณในอนาคต แล้วก็อย่ามัวแต่หวงไอเดียดีๆของคุณละ การแชร์ไอเดียอาจทำให้คุณได้แนวคิดใหม่ๆในการทำธุรกิจกลับมาก็ได้นะ
3. ไม่ใส่ใจ Digital footprint ยิ่งถ้าคุณมีตัวตนในโลกออนไลน์มากเท่าไหร่ คุณยิ่งมี Digital footprint หรือร่องรอยการใช้งานโซเซี่ยลเน็กเวิร์กต่างๆมากขึ้นเท่านั้น คุณอาจจะไม่คิดว่ามันสำคัญ แต่นั่นแหละที่คุณพลาด! ขอแนะนำให้คุณตรวจเช็คข้อความที่คุณโพส หรือการแม้กระทั่งการแชร์ข้อมูลต่างๆ ให้แน่ใจว่ามันไม่ขัดแย้งกับแนวทางการทำธุรกิจของคุณ ก่อนเริ่ม Start-up คงไม่ดีแน่ถ้าคุณทำธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม แต่มีภาพตัวคุณกำลังทิ้งขยะในที่สาธารณะโชว์อยู่ที่หน้าเฟสบุ๊คคุณ
4. ไม่ให้ความสำคัญกับการมีที่ปรึกษา สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียวเสมอ การมีเพื่อนคู่คิดในธุรกิจ ทำให้คุณได้แลกเปลี่ยนมุมมอง ได้ลองขบคิดเกี่ยวกับไอเดียใหม่ๆ การเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ไม่ได้หมายความว่าจะมีที่ปรึกษาเป็นรุ่นเก๋าไม่ได้ เลือกคนที่มองธุรกิจในทางเดียวกันกับคุณมาเป็นที่ปรึกษา นั่นจะช่วยเหลือคุณได้มากเลยทีเดียว
5. ไม่เตรียมเงินสำรอง อย่ามัวแต่รอยอดขาย เพราะไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่ายอดขายของคุณจะพอหล่อเลี้ยงธุรกิจให้พ้นช่วงปีแรกไปได้หรือไม่ ทางที่ดีคุณควรจะมีเงินสำรองที่พอเลี้ยงตัวเองได้สัก 1 ปีก่อนตัดสินใจเริ่มลงทุน
อ่านครบทุกข้อแล้วจะรออะไรละ ออกไปคว้าโอกาสเลย!