MasterCard องค์กรที่ให้บริการด้านการเงินรายใหญ่ ตัดสินใจที่จะปรับปรุงโลโก้หลังจากใช้มา 20 ปีเพื่อสะท้อนการเข้าถึงที่มากขึ้นในทุกมุมโลก
และ เพื่อให้เหมาะสมกับสื่อดิจิตอลมากขึ้น

1. สิ่งที่เปลี่ยนไป

โลโก้ใหม่ไม่ได้ถูกเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มันยังคงมีวงกลมสีแดงและสีเหลืองเชื่อมกัน (แสดงความเชื่อมโยงถึงกัน และความเป็นหนึ่งเดียวกันของพวกเขา) เพียงแต่ถูกลดทอนรายละเอียดลงและย้ายตัวอักษรไปไว้ด้านล่างของโลโก้แทน
แต่มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสังเกตก็คือ ชื่อ “MasterCard” ที่ตัดตัว “C” พิมพ์ใหญ่ออกไป กลายเป็น “mastercard” ที่พิมพ์ด้วยอักษรพิมพ์เล็กทั้งหมด ทั้งนี้เพื่อลดความสำคัญของ “Card” ตามโลกที่เปลี่ยนไป เพราะทุกวันนี้ Card ไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกต่อไปแล้ว มันกลายเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของการชำระเงินเท่านั้น

2. ความท้าทายของการปรับโลโก้

ด้วยความที่แบรนด์ทางการเงินต่างๆนั้น ต้องสะท้อนความสำคัญกับเรื่องความน่าเชื่อถือ และการสร้างความรู้สึกมั่นคงแก่ลูกค้าเป็นหลัก จึงทำให้การปรับเปลี่ยนโลโก้แต่ละครั้งนั้น ต้องระวังเรื่องภาพลักษณ์เป็นพิเศษ ในบางครั้งหากโลโก้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ก็อาจทำให้ลูกค้า เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่ไว้ใจในตัวแบรนด์ได้
แต่ขณะเดียวกัน หากแบรนด์ไม่ปรับตัวตามยุคสมัย ก็จะทำให้ติดอยู่กับภาพลักษณ์เก่าๆ และกลายเป็นสิ่งล้าสมัย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องท้าทายที่จะหาความสมดุลระหว่างการปรับตัวให้ทันสมัยโดยยังรักษาความคุ้นเคยของผู้บริโภคไว้

3. ปัจจัยสำคัญที่จะสร้างความสำเร็จ

Mastercard ใช้ความใส่ใจ และทุ่มเทอย่างมากในการค้นคว้าข้อมูลจากลูกค้าของพวกเขา เพื่อที่จะหาคำตอบว่าผู้คนจดจำ Mastercard ในรูปแบบไหน ในที่สุดพวกเขาก็ได้คำตอบที่ต้องการ และพวกเขาใช้คำตอบนี้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการปรับปรุงโลโก้ต่อไป ซึ่งภาพจำที่ผู้บริโภคมีต่อโลโก้ของพวกเขาก็คือภาพของวงกลมสีเแดงและสีเหลืองทับซ้อนกันนั่นเอง
CMO ของ Mastercard  Raja Rajamannar ได้กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนโลโก้ในครั้งนี้ว่าเขาต้องการให้มีความเสมอภาพสื่อออกมาจากโลโก้ รวมถึงการปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัย ขณะเดียวกันก็ยังรักษาสิ่งที่ผู้คนจดจำเกี่ยวกับMasterCardเอาไว้ด้วย

4. เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลง

โลโก้อันนี้ เกิดจากการผสมผสานระหว่างโลโก้ของ MasterCard ที่เคยเกิดขึ้นในทศวรรตต่างๆ เช่น องค์ประกอบของวงกลมจากปี 1966 ตัวอักษรพิมพ์เล็กทั้งหมดจากปี 1968 ลักษณะที่คล้ายกับจานสีที่ใช้มาตลอดช่วงยุค 90s และอื่นๆอีกมากมาย ดังนั้นการปรัปปรุงโลโก้ของพวกเขา จึงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนรูปลักษณ์ไป แต่พวกเขายังต้องการให้ผู้ชมของพวกเขานั้นเข้าใจถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการจะสื่ออีกด้วย

5. การตอบรับของผู้บริโภค

ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความคิดเห็นในเชิงบวก ต่อสัญลักษณ์ที่ถูกปรับปรุงใหม่ในรอบ 20 ปีนี้ พวกเขากล่าวว่า มันดูเรียบง่าย โมเดิร์น และเหมาะกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น ต่างจากโลโก้เดิมที่ดูซับซ้อนและล้าสมัย ขณะเดียวกันโลโก้ใหม่นี้ก็ยังคงความเป็น Mastercard แบบที่คุ้นตาเอาไว้ชนิดที่ว่าเห็นแล้วก็บอกได้ทันทีว่านี่คือแบรนด์อะไร